Pass Education Co.,Ltd
โดยปกติจะตอบกลับภายในไม่กี่ชั่วโมง
พาส เอ็ดดูเคชั่น สวัสดีจ้า
เริ่มแชท
New
Best Seller

ป๋องแป๋งรักย่า

คุณสมบัติสินค้า:

สอนให้เด็กได้รู้จักความรักความผูกพันจากผู้สูงวัยและการใช้เวลาดีๆ ร่วมกันระหว่างย่ากับหลานชาย

Share

นิทานภาพคำกลอนสำหรับเด็กวัย 0-3 ปี สอนให้เด็กได้รู้จักความรักความผูกพันจากผู้สูงวัยและการใช้เวลาดีๆ ร่วมกันระหว่างย่ากับหลานชาย เป็นกิจกรรมง่ายๆ สนุกสนาน ช่วยกล่อมเกลาจิตใจ พร้อมสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างผู้สูงวัยกับลูกหลานเพื่อให้คนทั้งสองวัยอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เช่น การใส่บาตร ทำขนม

--

ป๋องแป๋งรักย่า

บ้านที่มี ปู่ ย่า ตา ยาย อยู่ด้วยกัน นอกเหนือจากการได้รับความอบอุ่นจากผู้สูงวัยแล้ว ยังเป็นโอกาสดีที่เด็กๆ ได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกับคนที่มีวัยต่างกัน เรียนรู้เรื่องมารยาทและกาลเทศะ เป็นทั้งผู้รับและผู้ให้ การให้ความช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ แก่ปู่ ย่า ตา ยายจะสั่งสมนิสัยเอื้ออาทร มีจิตอาสา ขณะเดียวกันความรักความผูกพันของปู่ ย่า ตา ยายก็สร้างความอบอุ่นให้เด็กมีจิตใจละเอียดอ่อน ลดทอนความกระด้างอย่างน่าอัศจรรย์

ป๋องแป๋งรักย่า นิทานภาพคำกลอน พัฒนาทักษะสมอง EF ด้านจำเพื่อใช้งาน (Working Memory) ป๋องแป๋งกับคุณย่าได้ร่วมกันทำกิจกรรมที่น่าประทับใจ กิจกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นประโยชน์ที่เด็กควรจดจำแล้วนำไปใช้ต่อ ด้านจดจ่อใส่ใจ (Focus/Attention) ป๋องแป๋งตั้งใจและมีสมาธิจดจ่อกับกิจกรรมที่ทำร่วมกับคุณย่าอย่างมีความสุข

 

ลูกหลานคือดอกไม้ที่ผลิบาน

ลูกหลานคือดอกไม้ที่ผลิบานของครอบครัว ผู้ใหญ่พึงตระหนักว่า

1. พ่อแม่รักและปรารถนาดีกับลูก ไม่น้อยกว่าปู่ ย่า ตา ยายรักและเอ็นดูหลาน ช่วยกันทำให้บ้านเป็นที่ที่น่าอยู่สำหรับทุกคนโดยเฉพาะเจ้าตัวน้อยที่ทุกคนรัก เพื่อให้หลานเป็นเด็กที่เติบโตอย่างมีความสุข มีพัฒนาการสมวัย

2. การเลี้ยงดูลูกเป็นภาระหน้าที่และความรับผิดชอบโดยตรงของพ่อแม่ และผู้ใหญ่ทุกคนในบ้าน ครอบครัวใหญ่คือแรงเสริมที่ดี อย่าแย่งกันเลี้ยงหรือเกี่ยงกัน ผู้ใหญ่ควรสามัคคีและพูดให้ตรงกัน ไม่ใช่พ่อแม่ไม่ให้ทำ แต่ปู่หรือย่าให้ทำได้ อย่างนี้จะทำให้เด็กสับสน ทำตัวไม่ถูก

3. เด็กมีพื้นฐานทางอารมณ์และลักษณะเฉพาะตัวแตกต่างกัน บางคนเลี้ยงง่าย กินง่าย นอนนาน เบิกบานยิ้มแย้ม บางคนกินยากอยู่ยาก ตื่นไว โยเย บางคนเข้ากับคนอื่นง่าย บางคนเป็นเด็กนิ่ง ขี้อาย เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น ไม่ควรรีบด่วนตัดสินว่าเป็นเพราะพ่อแม่ “เลี้ยงลูกไม่เป็น” ต้องพิจารณาธรรมชาติของเด็กแต่ละคนด้วย

4. นมแม่ดีที่สุดสำหรับลูก เพราะมีสารอาหารครบถ้วน รวมทั้งมีภูมิคุ้มกันโรค นมแม่เหมาะสมและเพียงพอสำหรับลูกน้อย อย่ารีบให้อาหารเสริมใด ๆ กับเด็กในช่วง 6 เดือนแรก เพราะกระเพาะและระบบย่อยอาหารของเด็กทารกยังไม่พร้อม ถ้าแม่ไม่สามารถให้นมเองได้ ควรเลือกให้นมสำหรับทารก ห้ามใช้นมข้นหวานเลี้ยงเด็กโดยเด็ดขาด เพราะมีน้ำตาลสูง สารอาหารน้อยและอาจทำให้เกิดอันตรายกับเด็กได้ เช่น มีผื่นแดง ตัวบวม ภูมิคุ้มกันโรคต่ำ พัฒนาการช้า

5. รวมประสบการณ์ของคนรุ่นเก่ากับความรู้ของคนรุ่นใหม่ ผนวกด้วยวิทยาการ งานวิจัยทางการแพทย์ คำแนะนำของผู้รู้ จะช่วยเป็นข้อมูลและแนวทางในการเลี้ยงเด็กได้อย่างดี อย่ายึดติดกับวิธีการเลี้ยงเด็กแบบสมัยก่อนหรือสมัยใหม่ไปทุกอย่าง ควรเปิดใจรับข้อมูลในหลายด้าน เช่น

           

การใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปไม่ได้ทำให้เด็กขาโก่ง ขาโก่งมีสาเหตุจากพันธุกรรมหรือเป็นธรรมชาติของเด็กเอง การอุ้มเด็กนาน ๆ ไม่ได้ทำให้เด็ก  ติดมือ  ต้องอุ้มกันตลอดไปแต่อย่างใด ตรงกันข้ามเมื่อเด็กร้องแล้วไม่มีคนสนใจ เด็กจะยิ่งแผดเสียงร้องดังยิ่งขึ้น แต่ถ้ามีคนมาอุ้มปลอบโยน จะช่วยให้เด็กรู้สึกอบอุ่น ไว้วางใจว่ามีคนดูแล ทำให้สงบลงได้ และโตมาอย่างมั่นใจ ไม่รู้สึกว่าขาดแคลนความรัก

ไม่ควรให้เด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบกินน้ำผึ้ง เพราะในน้ำผึ้งมีแบคทีเรียที่อาจมีผลต่อระบบประสาทของเด็กเล็ก ทำให้กล้ามเนื้อไม่ทำงาน และเด็กยังติดรสหวานได้ง่าย

อย่าให้เด็กเล็กกินองุ่นทั้งลูกหรือไส้กรอกที่หั่นขวางเป็นแว่น ๆ เพราะอาจเผลอกลืนลงคอได้ง่ายทำให้สำลัก ติดคอ หายใจไม่ออก (ในปี 2558 องค์การอนามัยโลกรายงานว่า พบสารก่อมะเร็งในเนื้อสัตว์แปรรูปหลายชนิดที่ไม่ได้มาตรฐาน เช่น ไส้กรอก เบคอน หมูแฮม)

6. ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ หากสงสัยว่าลูกหลานมีปัญหาด้านพัฒนาการ เช่น ลูกยังไม่พูดหรือพูดช้าแม้ถึงวัยที่ควรพูดแล้ว ผู้ใหญ่ไม่ควรเพิกเฉย นิ่งนอนใจ

7. ช่วยกันเลี้ยงลูกหลานด้วยความรักความเข้าใจ ไม่ควรดุด่าว่าตี โมโห หรือใช้อารมณ์ ความรุนแรงกับเด็ก อย่าคิดว่าเด็กยังเล็กไม่เข้าใจความหมายของคำหยาบ เพราะเด็กเล็กสามารถเข้าใจภาษากายและน้ำเสียงของผู้ใหญ่ได้ ไม่มีใครชอบที่ถูกกระทำหรือถูกด่าว่าแรง ๆ ถ้ารู้สึกหงุดหงิด เหนื่อย โกรธ หรืออารมณ์ไม่ดี ผู้ใหญ่ควรสงบสติอารมณ์ตัวเองก่อนพูดคุยหรืออยู่ใกล้ลูกหลาน


หนูรักปู่ ย่า ตา ยาย  ปู่ ย่า ตา ยายรักหนู

ปู่ ย่า ตา ยายใจดี มีเมตตา เป็นสิ่งล้ำค่าในชีวิตหลาน การได้ใช้เวลาร่วมกันจึงมีค่าและถักทอ

สายสัมพันธ์ให้สนิทใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น ยิ่งหากเด็กรู้สึกว่ามี ความพิเศษ รออยู่ เช่น ไปบ้านปู่ย่าได้ปีนต้นไม้เล่น เล่นว่าว ได้ว่ายน้ำในคลอง ไปบ้านตายายได้พายเรือเล่น ได้ทำขนม ได้ฟังนิทานสนุก ฯลฯ  สิ่งเหล่านี้จะประทับอยู่ในใจของคนสองวัยไปอีกนานเท่านาน และยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่เด็กชอบเล่น เช่น

1. เล่นดินเล่นทราย เด็กจะสนุกตื่นเต้น เมื่อได้เล่นตักทราย ใส่น้ำลงไปทำให้ทรายเปียกตักใส่ถ้วย ใส่พิมพ์รูปสัตว์ พิมพ์รูปทรงต่าง ๆ แล้วคว่ำลงบนพื้น เด็กสามารถประดับตกแต่งตามใจชอบ เล่นก่อกองทรายได้ตามจินตนาการ วาด กำ ขยำ ปั้น ขีด เขียน การเล่นทรายจะช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมือ แขน และฝึกการเคลื่อนไหวที่ดีมาก

2. เล่นน้ำ ใส่น้ำในกะละมังให้เด็กนั่งเล่นน้ำ มีขันหรือถังใบเล็กสีสันสดใส ให้เด็กได้เล่นเทน้ำ ตวงน้ำให้ชุ่มฉ่ำใจ เด็กชอบเล่นน้ำกันแทบทุกคน เล่นคนเดียวก็ได้ เล่นหลายคนก็สนุก ถ้ามีฟองน้ำ ลูกปิงปอง ปืนฉีดน้ำ ของเล่นที่ลอยน้ำ หนังสือลอยน้ำ เด็กจะยิ่งสนุกสนานเพิ่มขึ้น

3. จัดมุมสำหรับหลานที่บ้านปู่ ย่า ตา ยาย มีกล่องหรือกระบุงตะกร้าใส่หนังสือ อัลบั้มครอบครัว หรือกล่องใส่ของเล่น เช่น ลูกสน กิ่งไม้ บล็อกไม้ เปลือกหอย หม้อข้าวหม้อแกง แป้งปั้น แม่เหล็ก ฯลฯ ไว้ให้เด็กได้เลือกเล่นเอง ปู่ ย่า ตา ยายอาจจะร้องเพลงหรือเปิดเพลงเบา ๆ ให้หลานฟังไปด้วยก็ได้

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้