แม่คือคนสำคัญที่สุดสำหรับลูกน้อย สมองของเด็กจะพัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงสามปีแรกและพัฒนาต่อไปตลอดชีวิต แม่ที่มีอยู่จริง และสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมีผลอย่างมากต่อพัฒนาการของลูกน้อย การได้รับความรัก ได้รับการเอาใจใส่ดูแล ตอบสนองความต้องการพื้นฐาน สร้างความรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการจัดระเบียบสมอง และเชื่อมต่อเซลล์ประสาท ซึ่งส่งผลต่อพัฒนาการของลูกน้อยในทุกๆ ด้าน
จะทำให้ลูกน้อยรู้สึกว่าโลกนี้ปลอดภัย และมีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ มีทักษะการเผชิญปัญหาที่ดี มีความรู้สึกไว้วางใจ และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
ในทางกลับกัน เด็กที่มีสายสัมพันธ์ไม่มั่นคง แม่ที่ไม่ตอบสนองความต้องการพื้นฐาน ไม่ทำให้ลูกรู้สึกปลอดภัยและไว้วางใจได้ ลูกน้อยจะเกิดความสับสน ไม่ไว้ใจแม่ และรู้สึกว่าโลกไม่ปลอดภัย ทำให้เขาไม่มั่นใจและไม่อาจพัฒนาตัวตนที่มั่นคงขึ้นได้ ซึ่งจะส่งผลต่อความสามารถในการเรียนรู้ และการสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นต่อไปในอนาคต
ทารกแรกเกิดต้องการให้แม่ปกป้อง ปลอบโยน ตอบสนองความต้องการของเขาอย่างทันท่วงทีด้วยความรักแบบไม่มีเงื่อนไข ทำให้ลูกรู้สึกปลอดภัยและผ่อนคลาย เมื่อได้อยู่ในอ้อมแขนของแม่ที่คอยอุ้ม กอด บอกรัก ให้นม เปลี่ยนผ้าอ้อม ลูกจะรับรู้ได้ว่า แม่มีอยู่จริง และสามารถพัฒนาความรู้สึกไว้วางใจแม่ ไว้วางใจโลก กล้าเผชิญอุปสรรคต่างๆ เพราะเมื่อมีแม่อยู่ โลกใบนี้ก็ไม่มีอะไรน่ากลัว
● อุ้มและกอดให้มากที่สุด เมื่อลูกร้อง ให้รีบเข้าไปอุ้ม ไม่ต้องกลัวลูกติดมือ อุ้มไปจนกว่าเขาจะหยุดร้อง อุ้มจนกว่าลูกจะไว้ใจแม่ เพราะการสัมผัสทำให้ลูกน้อยมั่นใจและรู้สึกปลอดภัย การอุ้มกอดแบบเนื้อแนบเนื้อ จะช่วยให้รู้สึกสงบและผ่อนคลายได้ทั้งแม่และลูกน้อย
● บอกรัก เป็นวิธีที่ง่ายและตรงไปตรงมาที่สุดในการสื่อสารให้ลูกน้อยรู้ว่าคุณรักเขามากแค่ไหน บอกลูกว่า ลูกจะมีแม่เสมอ ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น
● ดูและฟังลูกน้อย เมื่อลูกร้องหรือแสดงท่าทางใดๆ ให้สังเกตสัญญาณที่ลูกพยายามสื่อสารเช่น การแอ่นหลัง การดูดมือ การแสดงออกทางสีหน้าแบบต่างๆ แล้วตอบสนองความต้องการของลูกน้อยอย่างทันท่วงที ทำให้ลูกน้อยรับรู้ว่าแม่ใส่ใจเขา เมื่อความต้องการของลูกได้รับการตอบสนอง เขาจะสงบลง แต่หากแม่ไม่ใส่ใจ ปล่อยให้เขาร้อง เขาจะร้องตลอดไป
● สบตา ขณะที่แม่กำลังให้นม เล่นกับลูก หรือเปลี่ยนผ้าอ้อม ให้มองตา และยิ้มให้ลูกอย่างอ่อนโยน การสบตาและการแสดงออกทางสีหน้าช่วยให้ลูกน้อยเรียนรู้ที่จะเชื่อมโยงระหว่างคำพูดกับความรู้สึกได้
● ปลอบโยน ทุกครั้งที่ลูกร้องไห้ เป็นสัญญาณว่าลูกอาจจะหิว หรือไม่สบายตัว แม่จะมาดูแล แก้ปัญหา และปลอบโยนให้ลูกมั่นใจได้เสมอ
● คุยกับลูกบ่อยๆ สื่อสารกับลูกด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นและผ่อนคลาย อาจพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่คุณแม่กำลังทำหรือบอกเล่าเรื่องราวที่พบเจอมาก็ได้ จะช่วยให้ลูกน้อยเรียนรู้ที่จะจดจำเสียงของแม่ และยังช่วยในการเรียนรู้ภาษาในภายหลังด้วย
● ร้องเพลง ลูกน้อยอาจจะชอบเสียงเพลงและดนตรีที่มีจังหวะขึ้นและลง เพลงที่ผ่อนคลายช่วยให้ทั้งคุณแม่และลูกน้อยรู้สึกสงบขึ้น
● อ่านนิทาน การได้อ่านนิทานก่อนนอนอยู่ในอ้อมกอดแม่ ฟังเสียงแม่เล่านิทาน ตามองสำรวจรูปภาพ เชื่อมโยงกับเรื่องราวที่แม่เล่า เชื่อมต่อเซลล์ประสาทโยงใยไม่สิ้นสุด ดีต่อทั้งสมองและจิตใจของลูกน้อย
เด็ก 0-3 ปี
▪ board books เด็กวัยช่างสำรวจ เขาจะทำความรู้จักกับสิ่งต่างๆด้วยการสัมผัสด้วยมือและปาก ดังนั้นหนังสือที่เหมาะกับเด็กวัยนี้จึงต้องทนทานต่อการขยำ ฉีก ดึง และกัด เลือกเป็นหนังสือบอร์ดบุ๊กที่ทำจากกระดาษอัดแข็งทั้งเล่ม อย่างเช่น หนังสือภาพบอร์ดบุ๊กชุดหน้ากากแสนสนุก กางออกเป็นหน้ากาก มีไดคัทเจาะตา-จมูก ทาบกับหน้าเด็กเล่นสนุกเป็นหน้ากากสัตว์น่ารัก หน้ากากแฟนซี และ หน้ากากเทพนิยาย แข็งแรงทนทาน และยังช่วยส่งเสริมจินตนาการอีกด้วย
▪ activity books นิทานที่มาพร้อมกิจกรรมสนุกในเล่ม เป็นอีกหนึ่งวิธีช่วยให้ผ่อนคลายก่อนเข้านอน ชุดนิทานฝึกเชาวน์ ชวนเด็กฟังนิทานพร้อมกิจกรรมฝึกทักษะด้านต่างๆ เด็กๆ จะได้เรียนรู้เรื่องสี รูปทรงเรชาคณิต ฝึกสังเกตจดจำ และเรียงลำดับ อย่างเพลิดเพลินและเป็นธรรมชาติ
เด็ก 4-6 ปี
▪ activity books เด็กวัยนี้ชื่นชอบการแกะและแปะสติกเกอร์เป็นอย่างมาก การได้แปะสติกเกอร์น่ารักๆ ช่วยให้เกิดความเพลิดเพลิน ทั้งยังเป็นการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ ได้ใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กและสายตาทำงานประสานกัน ทำให้สมองยิ่งพัฒนา เด็กวัยนี้จึงเหมาะกับ ชุดนิทานสติกเกอร์ ที่เป็นภาพสัตว์น่ารัก ยานพาหนะ ผัก ผลไม้ สิ่งของใกล้ตัว ทั้งยังได้ เรียนรู้คำศัพท์ 2 ภาษา อังกฤษ-ไทย ไปในตัว
▪ นิทาน EF Executive Function (EF) หรือทักษะทางสมองที่ควบคุมความคิด การกระทำ และอารมณ์ ให้ไปถึงเป้าหมาย การพัฒนาทักษะ EF จึงเป็นการเตรียมสมองของเด็กให้พร้อม คิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น และอยู่ร่วมกับผู้อื่นเป็น นิทาน EF สำหรับเด็กยุคใหม่วัยนี้ เช่น นิทานป๋องแป๋ง นิทานปิงปิง นอกจากจะสอดแทรก EF อยู่ในเนื้อหาแล้ว ยังแนะนำวิธีชวนลูกคิดต่อชวนตั้งคำถามต่อยอด ให้ลูกได้มีส่วนร่วมในการคิด จินตนาการ และรู้จักพลิกแพลง แก้ปัญหาเป็น
● อ่านสม่ำเสมอ ช่วงขวบปีแรกที่ลูกน้อยยังไม่สามารถสื่อสารด้วยคำพูดได้ ช่วงเวลานี้แม่เป็นที่พึ่งของเขาเท่านั้น ลูกน้อยจะคาดหวังว่าแม่จะมาช่วยเขาเสมอ ลูกร้องไห้แม่อุ้มกอด ลูกหิวแม่ป้อนนม ลูกไม่สบายตัวแม่เปลี่ยนผ้าอ้อมหรืออาบน้ำให้ ทำเช่นนี้สม่ำเสมอ ลูกจะรู้ว่าแม่ไม่ได้หายไปไหน ระยะเวลาในการร้องจะสั้นลง
● กำหนดเวลาที่แน่นอน กำหนดเวลาเล่นกับลูกให้เป็นกิจวัตรประจำวันที่สม่ำเสมอ เพื่อให้ลูกน้อยมั่นใจว่าเวลานี้แม่เป็นของเขาคนเดียว สิ่งที่ลูกน้อยต้องการมากที่สุดไม่ใช่ของเล่น แต่เป็นเวลาที่แม่จะเล่นกับเขา เมื่อลูกรอคอย และแม่มาตรงเวลาทุกวัน นั่นคือ แม่ที่มีอยู่จริง
● ให้เวลาคุณภาพ ตัวอยู่กับลูก ใจก็ต้องอยู่กับลูกด้วย ให้ความสนใจกับลูกน้อยโดยปราศจากสิ่งรบกวน เช่น โทรศัพท์มือถือและโทรทัศน์
แม่ที่มีอยู่จริง และสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น จะช่วยให้ลูกน้อยสามารถ:
1. พัฒนาความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างแม่และลูก
2. รักษาสมดุลทางอารมณ์ได้ มี EQ ที่ดี
3. รู้สึกมั่นใจและรู้สึกดีต่อตนเอง กล้าออกไปเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และกล้าเผชิญปัญหา
4. สนุกกับการอยู่ร่วมกับผู้อื่น มีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
5. ฟื้นตัวจากความผิดหวังและการสูญเสียได้เร็ว
6. กล้าที่จะบอกความรู้สึกและขอความช่วยเหลือ
แม่ที่มีอยู่จริง ยังช่วยให้ลูกน้อยเติบโตทั้งทางร่างกายและจิตใจ จากการได้รับการสัมผัสซ้ำๆ เช่น การกอด การพูดคุย การร้องเพลง และการจ้องตากันทำให้สมองของทารกแรกเกิดหลั่งฮอร์โมนออกมา ฮอร์โมนเหล่านี้ช่วยให้สมองของลูกน้อยเติบโต และเมื่อสมองของทารกเติบโตขึ้น ลูกน้อยก็จะเริ่มพัฒนาด้านความจำ ความคิด และภาษาต่อไป
แน่นอนว่าไม่มีพ่อแม่คนใดสมบูรณ์แบบ แต่พ่อแม่ที่พยายามตอบสนองความต้องการของลูกน้อยให้ลูกรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยจะทำให้ลูกน้อยมีเนื้อสมองที่ดี เป็นต้นทุนและรากฐานที่มั่นคงสำหรับชีวิตของเขาในระยะยาว
ชุดนิทานก่อนนอน สร้างแม่ที่มีอยู่จริง และสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น สำหรับเด็ก 1-6 ปี
แม่อยู่นี่จ้ะลิงน้อย สอนให้ลูกมีความมั่นใจ ผ่านความเชื่อมั่นว่าแม่มีอยู่จริง ผ่านเรื่องราวอบอุ่น น่ารักของลิงน้อยกับแม่ที่ผูกพันกันมาก แม่ลิงพาลิงน้อยปีนต้นไม้ไปเก็บผลไม้ด้วยกัน วันหนึ่งมีการแข่งขันปีนต้นไม้ไปเก็บผลไม้บนยอดไม้สูงสุด ลิงน้อยกลัวว่าถ้าปีนขึ้นไปแล้วลงมาจะไม่เจอแม่ แต่เมื่อแม่ให้สัญญาลิงน้อยจึงกล้าร่วมแข่งขันปีนต้นไม้ และสามารถปีนขึ้นไปนำผลไม้ลงมาได้เป็นผู้ชนะ เมื่อลงมาก็เจอแม่รออยู่ ทั้งคู่กอดกันดีใจอย่างมีความสุข
รักของแม่ พัฒนา EF ของลูก
“ชุดนิทานก่อนนอน” นิทาน EF เรื่อง แม่อยู่นี่จ้ะลิงน้อย ช่วยพัฒนา EF ให้ลูกได้อย่างไร
● ด้านความจำใช้งาน เรียนรู้ว่าแม่มีตัวตนจริง แม่ไม่ทิ้งลูกไปไหน
● ด้านความยั้งคิดไตร่ตรอง เมื่อแม่มีอยู่จริง แม่จะอยู่ในใจลูกเสมอ ไม่ว่าจะทำอะไรลูกจะคิดถึงหน้าแม่ก่อน และจะรู้จักยับยั้งชั่งใจ ไม่ทำอะไรให้แม่ต้องเสียใจ
● ด้านการมุ่งเป้าหมาย เมื่อแม่มีอยู่คอยเป็นกำลังใจให้ลูก ลูกจะมีความมั่นใจ กล้าเผชิญอุปสรรค และมุ่งมั่นสู่ความสำเร็จตามที่ตั้งใจ
#นิทานก่อนนอน #แม่ที่มีอยู่จริง #นิทานEF #นิทานภาพ #นิทานคำกลอน