สอนลูกให้มี “ทักษะชีวิตตามวัย” ตั้งแต่เล็ก
เด็กยุคนี้เกิดมาท่ามกลางความสบายจากสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย การเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ผ่านระบบดิจิทัล สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ ทีวี และสื่อโซเชียลหลากหลายช่องทาง ทำให้เด็กรุ่นใหม่ขาดทักษะในการใช้ชีวิต ทักษะการเข้าสังคม และการอยู่ร่วมกับผู้อื่น รวมถึงผู้ปกครองที่มีความเชื่อผิดๆ ในการเลี้ยงดูที่เน้นส่งเสริมแต่ทักษะด้านสติปัญญาให้กับลูก เน้นให้ลูกเป็นคนเก่งวิชาการ อยากให้ลูกอ่านออกเขียนได้ตั้งแต่เล็ก ทำให้เด็กขาดโอกาสได้เล่น ได้ฝึกทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเอง จึงทำให้มีแนวโน้มว่า เด็กปฐมวัยจะอ่อนแอลงจนไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ตามวัย และมีทักษะชีวิตที่ไม่เพียงพอที่จะสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยตนเอง
ทักษะชีวิตคืออะไร
ทักษะชีวิต หมายถึง ความสามารถในการตระหนักรู้ในหน้าที่ ความรับผิดชอบ การมีวินัยในตนเอง ความภาคภูมิใจในตนเอง การสื่อสารกับผู้อื่นและทักษะทางสังคม มีความพร้อมทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา สามารถปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้
ทักษะชีวิต ต้องปลูกฝังและพัฒนาในวัยแห่งการเริ่มต้นการเรียนรู้ ช่วงเวลาสำคัญคือ ตั้งแต่แรกเกิด-5 ปี ที่พ่อแม่ และคุณครูจะฝึกให้เด็กเรียนรู้การอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม ปรับตัว และแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสมกับวัย การมีทักษะชีวิตที่ดีจะช่วยให้เด็ก สามารถจัดการกับความต้องการ และสิ่งท้าทายในชีวิตประจำวันได้ รับมือกับสภาพกดดันหรือปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งมีผลต่อความสามารถในการปรับตัวและใช้ชีวิตได้ดีในอนาคต
ทักษะชีวิตเด็กปฐมวัยมีอะไรบ้าง
ทักษะชีวิตของเด็กปฐมวัยที่ควรปลูกฝังและส่งเสริม แบ่งตามพัฒนาการทางด้านต่างๆ ได้ 4 ทักษะ คือ
1. ทักษะทางร่างกาย สามารถใช้ร่างกายและอวัยวะต่างๆ ได้อย่างคล่องแคล่วและเหมาะสมกับวัย เช่น ทักษะกล้ามเนื้อมัดเล็กมัดใหญ่ ทักษะการเคลื่อนไหว ทรงตัว ดูแลสุขภาพตนเอง ความปลอดภัย
2. ทักษะทางอารมณ์ ควรเข้าใจ จัดการ และควบคุมอารมณ์ของตนเองกับสถานการณ์ต่างๆ ได้เหมาะสม เช่น รู้และบอกได้ว่าตัวเองกำลังโกรธ เสียใจ ดีใจ เป็นต้น รวมถึงทักษะการเข้าใจผู้อื่น
3. ทักษะทางสังคม สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น และสิ่งแวดล้อมรอบตัว ได้อย่างเหมาะสม เช่น ทำงานร่วมกับผู้อื่น ช่วยเหลือผู้อื่น รู้จักสื่อสารความต้องการ มีมารยาทในสังคม
4. ทักษะทางสติปัญญา สามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ เพื่อนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตได้อย่างเหมาะสม เช่น ทักษะการคิด แก้ปัญหา วางแผน ตัดสินใจ
สอนลูกให้มีทักษะชีวิตได้อย่างไรบ้าง
ทักษะชีวิตเป็นสิ่งที่ควรปลูกฝังให้มีติดตัวตั้งแต่วัยแรกเกิดจนถึง 5 ปี คุณพ่อคุณแม่สามารถเตรียมทักษะชีวิตพื้นฐานให้เหมาะสมกับลูกแต่ละวัยได้ดังนี้
1. วิธีส่งเสริมทักษะชีวิตเด็กวัยแรกเกิด - 1 ปี
เป็นวัยที่สมองถูกพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทักษะชีวิตที่สำคัญของเด็กวัยนี้คือ ทักษะทางร่างกาย และทักษะทางอารมณ์ ควรฝึกให้ลูกได้ใช้ประสาทสัมผัสทุกส่วนในการสัมผัสและรับรู้สิ่งต่างๆ รอบตัว เด็กจะเรียนรู้การสื่อสารบอกความรู้สึกและความต้องการผ่านทางเสียง เด็กจะร้องเมื่อต้องความช่วยเหลือ หรือรู้สึกไม่ปลอดภัย เช่น หิว เหนื่อย หรือไม่สบายตัว ในทางกลับกัน เด็กจะส่งเสียง หัวเราะพอใจ เมื่อรู้สึกดีและปลอดภัย
สำหรับเด็กวัยนี้ การให้ความรักเอาใจใส่ โอบกอด สัมผัส ชวนเล่นชวนคุย ตอบสนองความรู้สึกของลูกอย่างถูกต้อง จะทำให้เด็กเติบโตเป็นคนที่เข้าใจความรู้สึกของตนเองและผู้อื่น รวมถึงเข้าใจโลกใบนี้
2. วิธีส่งเสริมทักษะชีวิตเด็กวัยเตาะแตะ 1 – 3 ปี
เด็กในวัยนี้จะมีพัฒนาการรวดเร็วในทุกด้าน สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และพยายามทำอะไรด้วยตัวเอง ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรเปิดโอกาสให้เด็กได้ทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยตัวเอง เช่น การเข้าห้องน้ำ การแต่งตัว การรับประทานอาหาร ใส่รองเท้า และเก็บของเล่น รวมถึงการทำกิจกรรมง่ายๆ ที่ไม่ซับซ้อน เช่น เล่นต่อบล็อกไม้ เล่นน้ำ เล่นทราย เล่นบทบาทสมมุติ ปั้นแป้งโดว์ เป็นต้น กิจกรรมเหล่านี้จะนำไปสู่ทักษะต่างๆ ทั้งการช่วยเหลือตนเอง ฝึกสังเกต ตัดสินใจ แก้ปัญหา การจัดการอารมณ์ตนเอง และมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น โดยพ่อแม่มีหน้าที่คอยสนับสนุน และให้กำลังใจ เมื่อเด็กๆ ทำได้ เด็กจะเกิดความมั่นใจและภาคภูมิใจในตนเอง
อีกหนึ่งทักษะชีวิตที่สำคัญต่อเด็กวัยนี้ ก็คือ “ทักษะทางอารมณ์” เพราะเด็กวัยนี้เริ่มเรียนรู้อารมณ์และความรู้สึกของตัวเอง จึงเป็นวัยที่เอาแต่ใจตัวเอง ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง คุณพ่อคุณแม่ควรชี้แนะ และสอนให้เด็กได้รู้ว่าสิ่งใดควรและไม่ควรปฏิบัติ และฝึกทักษะการจัดการอารมณ์ตนเองอย่างเหมาะสม
3. วิธีส่งเสริมทักษะชีวิตเด็กวัยอนุบาล 3 - 5 ปี
เมื่อเด็กเริ่มเข้าโรงเรียน ทักษะชีวิตที่เด็กวัยอนุบาลควรจะต้องได้รับการส่งเสริมและพัฒนาคือ ทักษะการเป็นผู้นำผู้ตาม ทักษะการคิดวิเคราะห์ การตัดสินใจและแก้ปัญหาในสิ่งที่ซับซ้อนมากขึ้น ทักษะการทำงานกลุ่ม และการช่วยเหลือผู้อื่น ผ่านการกิจกรรมที่ท้าทาย โดยพาเด็กๆ ได้ออกไปเล่นและสัมผัสกับธรรมชาติให้มากที่สุด การที่เด็กๆ ได้เรียนรู้นอกห้องเรียนจะทำให้เด็กเกิดความคิดต่าง และมีจินตนาการ เด็กจะได้เรียนรู้ที่จะแก้ปัญหา ฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะการสังเกต และทักษะการเข้าสังคม สอนลูกให้มีน้ำใจ และพร้อมที่จะช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ เพราะเมื่อเด็กรู้จักเป็นผู้ให้แล้ว เด็กจะเป็นเด็กที่มีความสุข มีทักษะการอยู่ร่วมกันในสังคมและการทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
เตรียมความพร้อมให้ลูกเอาตัวรอดได้
เมื่อลูกต้องอยู่ห่างไกลสายตาพ่อแม่ เด็กที่ได้รับการส่งเสริมให้มีทักษะชีวิตรอบด้าน จะสามารถปรับตัว และรับมือกับอุปสรรคต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม การเตรียมความพร้อมให้ลูกเอาตัวรอดได้ คุณพ่อคุณแม่ควรอ่านหนังสือนิทานให้ลูกฟังทุกวัน เพื่อปลูกฝังสิ่งต่างๆ ที่ต้องการสอนผ่านนิทาน เช่น ทักษะทางด้านความปลอดภัย ให้เด็กได้ความคิดเกี่ยวกับคนแปลกหน้า ไม่พูดคุยกับคนที่ไม่รู้จักคุ้นเคย กระตุ้นให้เด็กสังเกตสิ่งต่างๆ รอบตัว เพื่อดูแลความปลอดภัยของตัวเอง
นิทานคำกลอนชุดปิงปิงระวังภัย 4 เล่ม สอนให้ลูกปรับตัวเข้ากับเข้าชีวิตวิถีใหม่ และป้องกันภัยใกล้ตัวเด็กผู้หญิง เด็กๆ จะได้เรียนรู้ทักษะชีวิต ผ่านตัวละคร “ปิงปิง” ที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ต่างๆ
· ปิงปิงไม่ยอม : สอนลูกป้องกันตัวเองจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ
· ปิงปิงถูกหลอก : สอนลูกรู้เท่าทันคนแปลกหน้า ป้องกันการถูกลักพาตัว
· ปิงปิงไม่ซนอีกแล้ว : รับมือลูกจอมซนอย่างเข้าใจ ให้ลองเรียนรู้ผลที่ได้ด้วยตัวเอง
· ปิงปิงไม่ใส่หน้ากาก : สอนลูกให้ป้องกันตัวเองจากโรคติดต่อ ลดการแพร่กระจายเชื้อ และล้างมืออย่างถูกวิธี
หนังสือภาพพร้อมเพลง ส่งเสริมพัฒนาการ เหมาะสำหรับเด็ก 0-6 ปี ฝึกเรียนรู้ประโยชน์ของอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ตา หู จมูก ปาก ฯลฯ
การอ่านนิทานให้ลูกฟังยังนำมาซึ่งความอบอุ่น จากการได้สัมผัสอ้อมกอดของพ่อแม่ ทำให้เป็นเด็กที่มีความมั่นใจในตนเอง และมีจิตใจดีงาม เห็นอกเห็นใจผู้อื่น ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างเป็นสุข
#ทักษะชีวิต #ป้องกันภัยใกล้ตัว #ปิงปิงชุดระวังภัย #นิทานปิงปิง #ชุดคุณแม่สองขาชวนเล่นกับลูก