ทำไมเด็กๆ ต้องอ่านหนังสือ
"เด็กยังอ่านไม่ออกเลย ไม่มีเวลาอ่านให้ฟังหรอก เปลืองเงิน ก็เล่นแท็บเล็ตไปสิ... ในนั้นก็มีความรู้มากมาย"... นี่คือความคิดของคุณพ่อคุณแม่หลายท่านใช่ไหมคะ...แต่รู้หรือไม่ว่าเมื่อรอจนเด็กๆ โตแล้วอาจสายเกินไป!
การอ่านหนังสือส่งเสริมพัฒนาการทางภาษา จากการสำรวจของสพฐ. พบว่ามีนักเรียนระดับชั้นประถมปีที่ 3 ที่อ่านออกเขียนไม่ได้ มีจำนวนถึง 25,000-26,000 คน***ทั่วประเทศ การส่งเสริมเรื่องการอ่านจึงเป็นสิ่งสำคัญ แต่การใส่ใจการอ่านในช่วงประถมอาจสายเกินไป เพราะทักษะทางภาษาของเด็กๆ จะเพิ่มพูนขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 2-5 ปี
เด็กที่ได้รับการส่งเสริมให้อ่านหนังสือตั้งแต่เล็กจึงทำให้ได้เปรียบด้านพัฒนาการทางภาษา และ พัฒนาการทางสังคมและอารมณ์เพราะการอ่านหนังสือให้เด็กฟังจะทำให้ครอบครัวยังได้พูดคุยกันมากขึ้น อีกทั้งการได้มีปฏิสัมพันธ์กันจะทำให้ครอบครัวอบอุ่น ซึ่งส่งผลให้สุขภาพจิตดี
ขณะเดียวกันการจดจ่อกับตัวหนังสือทำให้เด็กๆ มีสมาธิ และมีจินตนาการ ต่างจากเด็กที่เล่นแต่แท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนซึ่ง Boston University School of Medicine ได้วิจัยแล้วพบว่าการนำแท็บเล็ตให้เด็กต่ำกว่า 3 ขวบเล่นอาจอันตรายต่อพัฒนาการทางสังคมและอารมณ์ของเด็กเพราะไม่มีการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น และขาดทักษะที่จำเป็นเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์
อีกทั้งการที่คุณพ่อคุณแม่ใส่ใจเรื่องการอ่านของลูกนั้นเปรียบเสมือนการเปิดโลกแห่งการเรียนรู้ให้แก่ลูกน้อย ให้ได้ไปท่องเที่ยวและเก็บสะสมเมล็ดพันธุ์แห่งจินตนาการและความรู้ทุกๆ วัน ก่อนถึงวันที่เขาเลือกหนังสือเพื่อล่องไปหาความรู้เองได้ การใส่ใจเรื่องการอ่านในเด็กเล็กจึงไม่ใช่เรื่องที่ละเลยได้เลย ดั้งนั้นมาอ่านหนังสือให้ลูกฟังกันนะคะ
เรียบเรียง : Admin
***ที่มา - http://goo.gl/SGbr4m