ปัญหาใหญ่ของพ่อแม่มีฐานะส่วนใหญ่ คือกลัวลูกลำบาก กลัวลูกไม่ฉลาดเหมือนลูกคนอื่น กลัวลูกมีไม่เท่าเพื่อนๆ ด้วยทุนทรัพย์ที่มีจึงต้องดูแลเอาใจใส่ลูกเต็มที่ ลูกอยากได้อะไรจัดให้หมด อยากทำอะไรช่วยทำแทน จัดแจงทุกอย่างทุกเรื่องให้ลูก
▶ไม่ดีเหรอ?
คำตอบคือ ไม่ดี เพราะลูกจะไม่ได้ฝึกทำอะไรด้วยตัวเอง
ไม่ได้ฝึกแก้ปัญหาเอง ไม่ได้ผ่านเรื่องลำบากเอง
ไม่ได้กำหนดเป้าหมายเอง
เพราะมีแต่พ่อแม่บอกให้ทำหรือช่วยตลอด
self esteem หรือการนับถือตนเองของลูกจึงต่ำ
▶self esteem สำคัญ เป็นตัวกำหนดความสำเร็จทุกด้านของชีวิต และเป็นรากฐานการสร้าง EF ของลูก (ทักษะสมองในการควบคุมตัวเองไปให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งใจ) ถ้าพ่อแม่คอยแต่ประคบประหงมทุกเรื่อง ลูกจะเสียโอกาสในการเรียนรู้ทักษะการควบคุมตนเอง
▶self esteem จะเกิดได้ต้องผ่านการฝึกฝน
ไม่ใช่พ่อแม่พูดสอนสั่ง ลูกต้องลงมือทำ
ลองผิดลองถูกเอง เจ็บตัวเอง
เลอะเทอะเอง เหนื่อยเอง ลำบากเอง
พ่อแม่ควรทำหน้าที่ส่งเสริม “เชียร์อยู่ข้างหลัง”
ไม่ใช่เดินนำบอกให้ทำ แต่ควรแนะนำ ระวังความปลอดภัยให้
ถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายร้ายแรง
ก็ควรปล่อยให้ลูกลองทำเอง
ตัดสินใจเอง แก้ปัญหาเอง
ไม่ว่าการเล่น การทำงาน
จะดีต่อการพัฒนาสมองและนิสัยใจคอของลูก
▶เริ่มต้นฝึกลูกได้ตั้งแต่วัยอนุบาล
เริ่มจากเรื่องง่ายๆ ใกล้ตัว
เช่น ให้ลูกเป็นคนเลือกเสื้อใส่เอง
ลองชวนปลูกต้นไม้ให้เขาช่วยทำ
ชวนทำไข่เจียวให้ลูกเป็นลูกมือ
ลองปีนต้นไม้เก็บมะม่วง ฯลฯ
ควรฝึกลูกทำบ่อยๆ และเป็นสิ่งที่พ่อแม่จำเป็นต้องทำ
ถ้าอยากให้ลูกมี self esteem และควบคุมตัวเองได้