พาสรวบรวมความลับของนิทานก่อนนอนที่คุณแม่ๆ อาจไม่เคยรู้ 9 ข้อ จบในโพสต์เดียว
1. สิ่งที่ได้มากที่สุดจากการอ่านนิทานก่อนนอน คือช่วย “สร้างสายสัมพันธ์” ระหว่างแม่ (พ่อ) กับลูกที่ดีที่สุด
2. ตอนอ่านเราจะได้กอด หอม คุยเล่นกับลูก หยอก แหย่ เห็นสีหน้า น้ำเสียง แววตา ทั้งหมดนี้เรียกสั้นๆ ว่า “ความสุข” ค่ะ
3. อ่านนิทานก่อนนอนทำง่ายและทำได้ทันที ทุกบ้าน ทุกวัน อย่างน้อยวันละ 15 นาที (หยุดดูเน็ตฟลิกซ์แป๊บเดี๋ยวเอง ลูกนอนแล้วแม่ๆ ค่อยเปิดดูต่อ)
4. สังเกตเวลาแม่เล่านิทานลูกก็อยากพูดตาม เราจะเห็นบ่อยๆ เด็ก 2-3 ขวบเล่านิทานได้หมดทั้งเล่ม เล่าถูกทุกคำด้วย ทั้งที่ยังอ่านไม่ออก เป็นวิธี “พัฒนาภาษา” ที่ดีมาก
5. ลูกจะเห็นภาพในนิทาน รู้ว่าตัวนี้คืออะไรตามที่แม่เล่าแม่ชี้ให้ดู แรกๆ ก็ยังไม่รู้ แต่พอดูบ่อยๆ สมองลูกจะค่อยๆ เรียนรู้ว่านี่คือหมา นี่คือแมว นี่คือส้ม ช่วย “พัฒนาความคิด” ของลูก
6. ลูกเห็นตัวหนังสือในนิทานเป็นเส้นยึกยือ และสมองก็จะค่อยๆ เรียนรู้ว่ามันมีความหมาย สิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานของทักษะอ่านเขียนของลูกตอนโตนั่นเอง
7. ตอนที่ลูกฟังนิทาน ตาเห็นภาพ ส่วนหูก็ได้ยินฟังเสียงแม่เล่า วงจรประสาทจะทำงานเชื่อมโยงกันอัตโนมัติ เช่น ได้ยินเสียงร้องเหมียวๆ แล้วนึกถึงแมว ถึงจะไม่เห็นตัวจริงๆ แต่ก็รู้ว่ามันมีขนนุ่มๆ “ช่วยพัฒนาสมองลูก” อย่างไม่มีขีดจำกัด
8. ยิ่งฟังนิทานบ่อย ลูกจะรู้สึกตามไปกับเรื่องราวหลากหลายแบบ บางฉากดีใจ บางช่วงเศร้า บางตอนตื่นเต้น ผจญภัย เหงา กลัว โมโห สงสาร อิจฉา ฯลฯ เหมือนเป็นการซ้อมรับมืออารมณ์สุขทุกข์ที่เข้ามา นิทานก่อนนอนจึงเหมือนเป็นภูมิคุ้มกันใจ “ช่วยพัฒนาอารมณ์” ของลูกที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง
9. นิทานอ่านตอนไหนให้ลูกฟังก็ได้ แต่แนะนำว่า “อ่านก่อนนอนดีที่สุด” เพราะพ่อแม่ไม่ยุ่งกับงานแล้ว ลูกก็เล่นใช้แรงมาทั้งวันแล้ว บรรยากาศเงียบ สงบ เหมาะมากที่จะอ่านหนังสือ กำหนดเวลาไว้เลย เช่น 2 ทุ่มของทุกวัน ทำทุกวันจะช่วย “ฝึกวินัยการนอน” ให้ลูกไปในตัวด้วย
แค่ 9 ข้อนี้ก็เกินคุ้มแล้วที่เราจะหยิบนิทานมาอ่านก่อนนอนให้ลูกฟังทุกคืนค่ะ
***ขอบพระคุณข้อมูลอ้างอิงจากเพจ “นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์” มากๆ ค่ะ
(ขอบคุณภาพประกอบจาก freepik.com)
